ข่าวศาลปล่อยตัว"พ่อค้าส้ม"เจอยาบ้าแจ้งตร.แต่ถูกจับ - kachon.com

ศาลปล่อยตัว"พ่อค้าส้ม"เจอยาบ้าแจ้งตร.แต่ถูกจับ
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. นายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความพร้อมด้วยน.ส.กัลยกร ชลพิทักษ์ อายุ 37 ปีพร้อมบุตรอีกจำนวน2คน ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อทำเรื่องให้ศาลจังหวัดธัญบุรี ปล่อยตัวนายพิชิต เชิดธรรม สามีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คลองหลวง จับกุมดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิชอบ โดยนายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ กล่าวว่า หลังจากที่น.ส.กัลยกร ภรรยานายนายพิชิต สามีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คลองหลวงจับกุมดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิชอบ ได้ไปขอความเป็นธรรมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติมารับเรื่องแทนพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นั้น โดยให้พนักงานสอบสวนข้อเท็จจริงว่าถ้าไม่ผิดก็ให้ปล่อยตัวนายพิชิต เชิดธรรม ซึ่งพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนแล้วไม่พบการกระทำความผิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีหมายปล่อยตัวมาที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ขอให้ปล่อยตัวนายพิชิต โดยให้เหตุผลว่าไม่พบการกระทำความจึงได้ปล่อยตัวโดยไม่มีการการประกันตัว ส่วนเรื่องของคดีนั้นก็ยังมีผู้ต้องหาคนอื่นอีกแต่ถ้ามีการสั่งฟ้องสำนวนของนายพิชิตก็จะพ่วงไปด้วย


นายวรกร  กล่าวต่อว่าเมื่อพ่วงไปด้วยแล้วก็ขึ้นอยู่กับทางอัยการ แต่ถ้าทางอัยการมีความเห็นเดียวกันกับตำรวจก็คือ จบคดีนี้ แต่ถ้าทางอัยการ เห็นสมควรว่า จะเรียกตัวมาเป็นจำเลย ก็มีสิทธิ์ที่จะให้ทำพนักงานสอบสวนเรียก นายพิชิตมาอีกเพื่อมาเป็นจำเลยได้ แต่ต้องมีเหตุผลมากพอสมควรที่จะสั่งในการดำเนินคดี เพราะว่าจากสำนวน ขอนายพิชิตที่มีอยู่นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย มีแต่เพียงว่าไปขายส้มและเจอยาเสพติด จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคดีนี้เป็นคดีแรกของประเทศไทยที่ผู้ต้องหาคดียาเสพติดมีการปล่อยตัวในชั้นของตำรวจ ด้านน.ส.กัลยกร  กล่าวว่าตนเองรู้สึกดีใจมาก ที่สามีจะออกมาจากเรือนจำและได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งและอยากจะขอบคุณทนายและสื่อทุกสื่อ ที่ได้ช่วยเหลือ ตนขอยืนยันว่าสามีตนเองไม่ได้เป็น ผู้กระทำความผิด 100% ตลอดระยะเวลาที่สามีเข้าไปอยู่ในเรือนจำนั้น ตัวเองต้องรับภาระทุกอย่างในการเลี้ยงดูลูก 2 คน และภาระทุกอย่างในครอบครัวอีก พร้อมทั้งค่าเช่าบ้านและส่งงวดรถ


ต่อมาที่เรือนจำธัญบุรี จ.ปทุมธานี  ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปล่อยตัวนายพิชิต ออกมาจากเรือนจำให้เป็นอิสระและเมื่อทางน.ส.กัลยกร และลูกอีก2 คน ได้เจอหน้ากันต่างก็โผเข้ากอดกันและร้องไห้ด้วยความดีใจ  ขณะที่นายพิชิต กล่าวว่าวันเกิดเหตุ เพื่อนของตนได้รับงาน มาเพื่อที่จะให้เอาส้มไปทิ้ง จนได้มาเจอยาบ้า ซึ่งหลังจากที่เจอยาบ้าแล้วตนเองก็ไม่ได้ตกใจอะไร ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำยาเสพติดไป แล้วเรียกตนให้ไปที่โรงพักคลองหลวง ให้เซ็นเอกสาร ซึ่งตนก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ตำรวจได้อ่านให้ตนฟัง จับใจความได้ว่า ตนได้ขับรถไปส้ม และมียาเสพติดอยู่ในรถ ในการเซ็นนั้นตนเองไม่ได้รับสารภาพ ว่าเป็นเจ้าของยาเสพติด จากนั้นตำรวจก็นะพาตนไปชี้ยาเสพติดจากนั้นก็ได้ถ่ายรูป และนำตนเข้าไปควบคุมไว้ในห้องขังของสภ.คลองหลวง 1 เดือน ที่ตนเองถูก จับกุมอยู่ในเรือนจำนั้นมันเป็นการที่ทรมานมาก คิดว่าตนเองเป็นพลเมืองดีแต่ทำไมต้องมาถูกจับกุม หลังจากนี้ไปตนเองคงไม่กล้าถ้าเจอสิ่งผิดกฎหมายอีกตนจะไม่ขอเข้าไปยุ่ง และจะไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะแจ้งไปก็อาจจะถูกจับมาแบบนี้อีก .