'โจรตัวจริง'เบี้ยวค่ารร. เจอจับโดดหนี-ถีบสาวชิงจยย.อีก
อาชญากรรม
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. พ.ต.ท.ปรเมศว์ เมฆสั้น รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายชิงรถจักรยานยนต์ของประชาชน บนถนนชีกุน ใกล้กับวงเวียนโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย กลางเมืองพระนครศรีอยุธยา แล้วหลบหนี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ น.ส.วิศัลย์ชยา มีวงษ์สม อายุ 36 ปี พนักงานร้านขายยา ยืนตัวสั่นอยู่ในอาการตกใจรอให้การกับเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีครีม ทะเบียนกฐ-7538 พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปทำงานที่บริเวณหน้ารพ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเป็นวงเวียนตนจึงชะลอรถเพื่อเลี้ยวเข้าวงเวียนจู่ๆมีคนร้ายเป็นชายวิ่งมากระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยายนต์ แล้วเอื้อมมือมาจับที่แฮนด์เพื่อจะบิดคันเร่งแล้วขู่ตะคอกบอกให้ตนลงจากรถ ตนตกใจจึงขัดขืนบีบแตรหลายครั้งเพื่อที่จะให้คนมาช่วย แต่ไม่มีใครมาช่วย จากนั้นตนได้หักแฮนด์รถจักรยานยนต์ให้ล้มแล้ว คนร้ายจึงได้ใช้เท้าถีบจนตนเองกระเด็นไปตามแรงเท้า จนจุกลุกไม่ขึ้น คนร้ายจึงขี่รถหลบหนีไป อย่างลอยนวล
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับกุมตามเส้นทางแต่ยังไม่พบตัวของคนร้าย แล้วทราบต่อมาว่าคนร้ายรายนี้ ก่อนที่จะมาชิงรถจักรยานยนต์ ได้ไปเปิดห้องพักของโรงแรมเดอะ มูฟ ไทม์ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ในราคา 700 บาท แล้วไม่มีเงินจ่าย ทางตำรวจ สายตรวจจึงได้ไปควบคุมตัวเพื่อมาดำเนินคดี เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุอาศัยช่วงจังหวะที่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจชะลอกระโดดรถจากรถของสายตรวจหลบหนีไปชิงรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ด้านนายศิวศิษฏ์ บุตรเมือง อายุ 33 ปี เจ้าของโรงแรม กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุชิงรถจักรยานยนต์เป็นรายเดียวกันที่มาใช้บริการที่โรงแรม แล้วไม่มีเงินจ่ายค่าห้องพัก เคยหลอกพนักงานให้พาออกไปกดเงินแล้วไปทิ้งพนักงานกลางทางแล้วหลบหนีไป จนล่าสุดได้มาเปิดห้องเข้าพักอีกครั้ง แล้วไม่ยอมจ่ายเงินอีก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัว ซึ่งทางจำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ายังหลบหนีอยู่ในเขตเทศบาลเมือง จึงเร่งติดตามจับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.