ข่าวสกัดจับแก๊งยาขน'ไอซ์'1.4ตัน! มูลค่านับแสนล้านบาท - kachon.com

สกัดจับแก๊งยาขน'ไอซ์'1.4ตัน! มูลค่านับแสนล้านบาท
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ดินแดง นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 ร่วมกัน แถลงข่าวการปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด สามารถจับกุมนายสุวิทย์ หรืออ๊อฟ พรมโอ่น อายุ 26 ปี พร้อมของกลางยาเสพติดไอซ์1,495 กิโลกรัม เคตามีน 91 กิโลกรัม รถบรรทุก 6 ล้อ2 คัน รถยนต์  4 คัน และเครื่องบรรจุยาเสพติด1 เครื่อง 

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคน มีประชาชนแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนสำนักงานป.ป.ส. 1386 ว่า ผู้ต้องหาร่วมกับพวกเปิดโกดังย่านปทุมธานีเลขที่16/56 หมู่ 2 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี เพื่อเก็บพักคอยยาเสพติด ก่อนส่งออกไปต่างประเทศ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนกระทั่งวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 02.00 น. พบ นายสุวิทย์ และนายหมู(นามสมมุติ) ที่หลบหนี ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า รุ่นฟรีด สีขาว ทะเบียน ขจ 2715 ชลบุรี เข้ามาในโกดัง และเมื่อรถคันดังกล่าวขับออกมาจากโกดัง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้นรถ แต่นายหมูซึ่งเป็นคนขับไหวตัวหลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นรถพบของกลางไอซ์  4 กล่อง กล่องละ 25 ก้อน รวม100 กิโลกรัม และคีตามีน (ยาเค) 2 กล่องน้ำหนักรวม 91 กิโลกรัม


จากนั้นได้เข้าตรวจค้นด้านในโกดังหมายเลข 7 พบไอซ์ น้ำหนัก1,395 กิโลกรัม ซุกซ่อน ในช่องลับพื้นรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน72-3007 นครปฐม ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่สีขาว ทะเบียน 70-3006 นครปฐม โดยพบว่ามีการทำช่องลับบริเวณพื้นกระบะด้านท้ายเช่นเดียวกัน แต่ไม่พบยาเสพติด ซึ่งเชื่อว่าอาจจะมีการนำออกจากรถและส่งจำหน่ายไปก่อนแล้ว จากข้อมูลทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการเช่าโกดังแห่งนี้ไว้ก่อนที่จะนำยาเสพติดมาเก็บประมาณ 1 เดือน   ขณะที่ นายนิยม กล่าวว่า ยาเสพติดลอตนี้ น่าจะถูกนำพักไว้เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่3 ( มาเลเชีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี) ทั้งนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อยังเครือข่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยาเสพติดล็อตดังกล่าว เป็นเครือข่ายเดียวกันกับผู้ต้องหาที่นำรถพยาบาลมาขนยาเสพติด ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้และหากยาเสพติดถูกจำหน่ายออกไปยังประเทศที่สาม จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า10 เท่า และทำให้มีราคาสูงขึ้นนับแสนล้านบาท